โซเชียลลุกฮือ ย้ายประเทษกันเถอะ เกิดอะไรขึ้น
ชาวโซเชียลกำลังตื่นเต้นกับกลุ่มเฟซบุ๊ก “ย้ายประเทศกันเถอะ” ที่สร้างความหวังและความเป็นไปได้สำหรับผู้ที่ต้องการไปใช้ชีวิตหรือทำงานในต่างประเทศ “สมชัย” อดีตกรรมการ กกต. ชี้ไม่ควรมองข้าม พร้อมคำนวณตัวเลขหัวกะทิในกรุ๊ป หวั่นปรากฏการณ์สมองไหล
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก แสดงมุมมองที่มีต่อกลุ่มเฟซบุ๊ก “ย้ายประเทศกันเถอะ” โดยเริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า “วันเดียว คนเข้าร่วมเกือบครึ่งล้าน” เนื่องจากเพจน้องใหม่ดังกล่าวเพิ่งเปิดในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย ณ เวลา 13.20 น. วันนี้ มีสมาชิกมากกว่า 5.3 แสนบัญชีแล้ว
นายสมชัยโพสต์ข้อความต่อไปว่า เพจ ย้ายประเทศกันเถอะ ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปกครองประเทศจะมองผ่าน และคิดว่าเป็นเรื่องสนุกเฮฮา เพ้อฝัน ของคนรุ่นใหม่ ลักษณะการถาม ตอบ แลกเปลี่ยนของสมาชิกในกลุ่มดูจริงจัง และพยายามถ่ายทอดประสบการณ์ในการใช้ชีวิต การเรียน การหางานทำ การเอาตัวรอด ไปจนถึงทำอย่างไรจะได้อยู่เป็นพลเมืองของประเทศนั้น
ผู้ถามไม่ได้ถามเอาเล่น และผู้ตอบก็ตั้งใจตอบอย่างมีสาระจริงจัง บางคนถึงขนาดอาสาติวภาษาของประเทศนั้น ๆ ให้ฟรีทางออนไลน์ด้วยซ้ำ คนเหล่านี้มิได้ไม่รักชาติ แต่ผู้ปกครองประเทศในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เขารู้สึกว่าประเทศไม่น่าอยู่และต้องการหาที่ไป บางคนถึงขนาดเปรียบเทียบว่า อากง อาม่า ยังอพยพหนีมาจากเมืองจีนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า บัดนี้ถึง generation เขา ก็ต้องหาสิ่งที่ดีกว่าเช่นกัน หากได้ดิบได้ดีแล้วค่อยส่งเงินกลับมาช่วยเมืองไทย
ในเพจตอนนี้มีแบ่งกลุ่มย่อยตามหัวข้อที่ตนสนใจ เช่น ทีมอเมริกา ทีมออสเตรเลีย ทีมญี่ปุ่น ทีมวิศวะ ทีมแพทย์ ทีม data ฯลฯ นับแล้วน่าจะเป็นร้อยทีม ถามตอบเจาะลึกกันอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่คือคนหนุ่มสาว หรือคนวัยทำงาน มีทักษะทางภาษา และมีความรู้ดีพอสมควร จริงอยู่ว่าทั้งสี่แสนกว่ารายไม่มีโอกาสย้ายตามความฝัน แต่คิดง่าย ๆ ว่า หากได้ไปสัก 10% ก็ 40,000 หรือแค่ 1% ก็ 4,000 แล้ว และ 40,000 หรือ 4,000 คนนี้ ต้องเป็นครีมของครีม คือคนที่มีความรู้ความสามารถจริงที่ประเทศนั้นยอมรับ
อดีตกรรมการ กกต. โพสต์ปิดท้ายว่า น่าเป็นห่วงประเทศครับ เข้าไปดูได้ไม่กี่นาที ลูกสาวที่อยู่ในต่างประเทศก็ส่งสายเข้ามา “ย้ายประเทศมั้ยคะ คุณพ่อ”