พบเบาะแสใหม่คดีน้องต่อ ใกล้กระจ่าง แจ้งค้าประเวณี พุทธ-ลุงแจ้โดนพรากผู้เยาว์

"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นนครปฐมที่เค้นสอบ "นิ่ม" แม่น้องต่อ ยังปากแข็งไม่ยอมบอกเอาลูกไปไว้ไหน ไปทำอะไร หรือให้ใครเลี้ยง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "พุทธ" เป็นธุระจัดหาค้าประเวณี พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วน "ลุงแจ้" เตรียมแจ้งข้อหาพรุ่งนี้ คดีพรากผู้เยาว์ ล่าสุดเจอเบาะแสใหม่ พบคราบเลือดบนรถจักรยานยนต์

ความคืบหน้าคดี น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายตัวในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ สภ.บางหลวง หลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางออกจากห้องประชุมและทำการสอบปากคำนิ่ม พุทธ และลุงแจ้ เพิ่มเติม โดยได้เปิดเผยว่าในวันนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปจากเมื่อวาน และนิ่มเองยังไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น เราไล่เรียงเรื่องการกระทำผิดทางคดีอาญาก่อน ว่าในเรื่องนี้นอกจากเรื่องของตัวแม่แล้ว เราดำเนินคดีอาญากับนายพุทธ เรื่องการขายบริการ เป็นธุระจัดหาให้ภรรยาตัวเองไปขายบริการให้กับเพื่อนพ่อ เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งนิ่มนั้นมีอายุเพียง 15 ปี วันนี้ความผิดที่พบเป็นความผิดของนายพุทธ ซึ่งเป็นสามีของนิ่ม
สำหรับความผิดที่พบอีกราย คือลุงแจ้ ที่ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี (คือนิ่ม) กระทำผิดฐานกระทำชำเรา เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ในวันนี้แจ้งข้อหา 2 คน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ลงพื้นที่ สภ.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายตัวไปอย่างปริศนา ภายหลังระบุ ตำรวจไล่เกือบครบทุกประเด็นแล้ว ยังมีคนพูดไม่จริงอยู่ 

สำหรับตัวของนิ่มนั้น ทางข้อมูลสืบสวนสอบสวนเราไล่กันทุกทิศทาง ในส่วนตัวละครส่วนอื่นไม่มีใครและไม่มีบุคคลภายนอกที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้น โดยตัวของนิ่มเองได้ยอมรับเรื่องชายเสื้อเหลืองนั้น เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับว่าเอาลูกไปไว้ไหน ไปทำอะไร หรือให้ใครเลี้ยงดู

ทั้งนี้ช่วงก่อนที่น้องต่อจะหายตัวไป ทางหมออนามัยได้ทำการยืนยันถึง 3 ปากว่า เด็กไม่สบายและมีอุณหภูมิร่างกายสูงถึง 39 องศาฯ โดยหมอแนะนำให้ไปโรงพยาบาล แต่ไม่ยอมพาไปแล้วยังนำลูกกลับมาบ้าน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งสิ้น แต่วันนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าเด็กเสียชีวิต เราจึงต้องหาเด็กก่อน และเพิ่มเติมการสอบสวนขยายผล โดยพยายามทำให้เป็นวงแคบขึ้น เพราะใกล้จะจบในเรื่องข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์และพิกัดทางโทรศัพท์แล้ว

ถึงแม้นิ่มจะไม่ยอมพูดหรือให้ข้อมูลก็ไม่เป็นไร เราอาศัยพยานหลักฐานมาดำเนินการ แต่สิ่งที่แม่พูดทั้งหมดคือเรื่องเท็จทั้งหมด แต่ละวันพูดไม่ตรงกันและโกหกมาโดยตลอด คือหลักๆ แล้ว แม่เด็กทุกคนต้องรักลูก ประเด็นหลักๆ คือ อยู่ที่ตัวแม่ วันนี้การสืบสวนสอบสวนและการสอบปากคำไม่มีการร้องไห้ หรือเสียน้ำตาแต่อย่างใด

ทางด้านนายพุทธ ก็ให้การรับสารภาพ ตัวนายพุทธ มีลักษณะท่าทีและมีอาการเครียด ส่วนนิ่มนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปล่อยตัวกลับไป สำหรับลุงแจ้ตำรวจจะแจ้งข้อหาในวันพรุ่งนี้ เพราะคดีนี้เป็นผู้เยาว์ โดยลุงแจ้ก็ให้การรับสารภาพเช่นกัน

สำหรับเรื่องนี้เราต้องมีการรวบรวมข้อมูล คาดว่าจะให้เสร็จภายใน 2 อาทิตย์ เพื่อหาช่วงเวลาที่หายไป สิ่งที่พบคือแม่พูดเท็จและให้การกลับไปกลับมา ไม่มีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง วันนี้ตำรวจปล่อยตัวนิ่มกลับไป โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนิ่ม หากได้พยานหลักฐานทั้งหมดแล้วค่อยว่ากัน

ซึ่งทางตำรวจตรวจทุกทางก็ไม่พบชายเสื้อเหลือง ซึ่งตรงกับที่นิ่มเพิ่งจะเปิดปากรับสารภาพออกมาว่าไม่มีชายเสื้อเหลืองและจนด้วยพยานหลักฐาน ยกตัวอย่างเช่น ตื่นมาตี 3 ชงนม แต่คนที่เห็นและนอนใกล้กับนิ่มบอกว่าไม่มี ไม่มีแม้แต่การตื่นขึ้นมาต้มน้ำ หรือไม่มีแม้กระทั่งเสียงเด็กร้อง หากเด็กคนนี้ร้อง จะร้องไม่ต่ำกว่า 15 นาที